วันอังคารที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2565

อุตรดิตถ์ จัดประชุมเสวนา ให้ความรู้ ส่งเสริมชาวบ้านปลูกกระท่อม 5-10 ต้น เพิ่มรายได้รากหญ้า 



วันที่ 10 พค.2565 ที่ห้อง ประชุม อบต.นานกกก อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ นายปรัชญา เสริฐลือชา นายอำเภอลับแล จ.อุตรดิตถ์ มอบหมายให้นางเรณู อินศิริ ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง  เป็นประธานการเปิดประชุมเสวนาการปลูกกระท่อม.(ปฏิวัติความจน)นำเงินเข้าประทศ โดยมี ว่าที่ ดร.ธนันท์รัฐ เจริญเธียร นายกสมาคมคนไทยรักแผ่นดิน ได้เป็นผู้เสวนา ให้ความรู้กับสมาชิกผู้ปลูกกระท่อม พร้อมร่วมปลูกกระท่อมปฐมฤกษ์ ให้กับสมาชิก ที่เข้าร่วมประชุมเสวนาในครั้งนี้ สำหรับการส่งเสริมปลูกกระท่อม ดังกล่าว เป็นโครงการของหน่วยปฏิบัติการพิเศษตามเจตนาของกระทรวงยุติธรรม และแนวทางรัฐบาล เพื่อสานต่อหลังมีการปลดล็อคออกจากเป็นยาเสพติดประเภท 5 ต้องการส่งเสริมให้เกษตรกร หรือประชาชนทั่วไป ปลูกกระท่อมครอบครัวละ 5-10 ต้น ไว้ตามหัวไร่ปลายนา หรือหลังบ้านตัวเองที่พอมีที่ดิน เพราะจะใช้พื้นที่ในการปลูกประมาณ 5- 10 ตารางวาเท่านั้น

ว่าที่ ดร.ธนันท์รัฐ กล่าวด้วยว่า การจัดกิจกรรมขึ้น เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระงานให้กับหน่วยงานราชการ ในการติดอาวุธทางปัญญาให้กับนักเรียน-นักศึกษา,เกษตรกรและผู้สูงอายุ รวมถึงผู้ต้องราชทัณฑ์ที่อยู่ระหว่างรอการปล่อยตัว ยกระดับเป็นแหล่งท่องเที่ยว ชุมชน “ กระท่อมไทยยิ้ม”เป็นการสร้างงานสร้างอาชีพให้กับเกษตรกรซึ่งได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติในโรคระบาด โควิด-19

ปัจจุบันสมาคมคนไทยใจรักแผ่นดินได้จัดตั้งสถานีปฏิบัติการพิเศษตาม แนวศาสตร์ แห่งพระราชา”ครั้งหนึ่งในชีวิต”(ทำดีเพื่อแผ่นดิน) ไปแล้วกว่า 100 อำเภอทุกภูมิภาคอย่างรระหว่างการแต่งตั้งอีกกว่า 200 อำเภอซึ่งคาดว่าจะแต่งตั้งให้แล้วเสร็จครบทุกอำเภอทุกจังหวัดภายในปีพ.ศ. 2565

สำหรับแนวทางการปฏิบัติงานของสมาคมฯมีเป้าหมายจะส่งเสริมการปลูกไปทั่วประเทศจำนวน 10 ล้านต้น แล้วจะรับซื้อใบกระท่อม คืนจากเกษตรกรในราคามาตรฐาน กก.ละ 80-200 บาท ขึ้นอยู่กับราคาในท้องตลาดในช่วงนั้นๆ โดยสมาคม จะนำใบกระท่อมไปแปลรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เพื่อขายในประเทศและส่งออก ซึ่งจะได้ขออนุญาตจาก อย.ในการแปรรูปผลิตภันณ์ ตามที่กฏหมายกำหนด

ภาพโดยรวม เกษตรกรจะลงทุนค่าต้นพันธุ์ ต้นละ 100 บาท หรือลงทุนครั้งเดียว 500-1,000 บาทต่อครอบครัว ภายใน 8 เดือนเกษตรกรจะสามารถเก็บใบได้ต้นละ 3 กก.ต่อต้น ต่อเดือน หลัง 3 ปี จะเก็บใบได้เดือนละไม่น้อยกว่า 7 กก.ต่อต้น ต่อเดือน

หากเกษตรกรปลูก 10 ต้น ถ้า กก.ละ 80 บาท จะมีรายได้ไม่น้อยกว่า 5,600 บาท แต่หากช่วงนั้นราคาถึง กก.ละ 200 บาท จะขายได้เป็นเงินกว่า 10,000 บาทต่อเดือน ถือเป็นรายได้เสริมที่ไม่ยุ่งยาก และกินยาว เพราะกัญชง มีอายุประมาณ 80 ปี

ภายหลังจากการจัดประชุมสัมนา ทางสมาคมไทยรักแผ่นดิน ได้แต่งตั้งให้ ว่าที่ รต.หญิงเกวลี เขื่อนจะนะ รับตำแห่งเป็นนายอำเภอสถานีปฏิบัติการ(พิเศษ) ตามแนวศาสตรแห่งพระราชาฯ อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์
















นาคา คะเลิศรัมย์/รายงาน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น