วันอังคารที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2564

ผกก.สภ.พะวอ  สกัดไวรัส covid-19 เข้าประเทศ พร้อมจับกุมต่างด้าวแอบลักลอบเข้าเมืองผิดกฏหมาย  ตามนโยบาย “ บิ๊กอ้อ ” ผบช.ภาค 6


เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2564  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.นนทวร สีอินทร์ ผกก.สภ.พะวอ ได้สั่งการให้ พ.ต.ต.สุรพงษ์ รัตนาวงศ์ สว.สส. , ร.ต.อ.ทองแดง ราศรี รอง สว.สส. นำตำรวจชุดสืบสวน  สภ.พะวอ  ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหาร มว.สกัดกั้นที่   3 ร้อยสกัดกั้นที่    1 กกล.นเรศวร  ,  นายสุพจน์ กาใจ กำนันตำบลพะวอ ,  นายอลงกรณ์ จำรัสคีรี  ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ต.พะวอ อ.แม่สอด จ.ตาก ร่วมกันจับกุมตัวนายอะตู ไม่มีนามสกุล อายุ 27 ปี สัญชาติ เมียนมาร์   พร้อมกับพวกรวมจำนวน 38 คน (   ชาย 23 คน หญิง 15 คน )  เพื่อป้องกันปราบปราม " แรงงานต่างด้าว" ลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย และ   การค้ามนุษย์ ในพื้นที่อำเภอแม่สอด  ตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) , พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) ,  พลตำรวจโทอัคราเดช พิมลศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 ,  พล.ต.ต.ปกปภพ บดีพิทักษ์ ผบก.ภ.จว.ตาก , พ.ต.อ.โอภาส คงเมือง  รอง ผบก.ภ.จว.ตาก  และ ผู้บังคับบัญชา  ซึ่งเป็นนโยบายที่สำคัญของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่มีนโยบายให้บริหารจัดการแรงงานต่างด้าวในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างเป็นระบบเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของนายจ้าง และ สถานประกอบการที่ขาดแคลนแรงงาน  พร้อมกับควบคุมมิให้เกิดการแพร่ระบาดในกลุ่มแรงงานข้ามชาติ

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า "  เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองและพักอาศัยอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต,ฝ่าฝืนประกาศคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดตาก ฉบับที่ 38/63 เรื่องมาตรการป้องกันควบคุมโรคติดต่อเชื้อไวรัวโคโรนา2019 (โควิด 19)จังหวัดตาก"   และ สามารถจับกุมต่างด้าวลักลอบเข้าเมืองผิดกฏหมาย  ได้ที่บริเวณบ้านปางควาย ม.5 ต.พะวอ อ.แม่สอด จ.ตาก  แล้วควบคุมตัวต่างด้าวนำส่ง พ.ต.ท.บัณฑิต เดินไพร พงส.สภ.พะวอ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พ.ต.อ.นนทวร สีอินทร์   ผกก.สภ.พะวอ  กล่าวว่า  ตามนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6  ได้กำชับและสั่งการไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายทำการตรวจสอบสถานประกอบการ   โรงงาน  ที่พักคนงาน และ  พื้นที่สุมเสี่ยง  ทำการสืบสวนปราบปราม   จับกุมแรงงานต่างด้าวที่ทำงานโดยผิดกฎหมายและนายจ้างที่เกี่ยวข้อง ฯ  เพิ่มการกวดขันการตรวจตราการลักลอบนำเข้าแรงงานต่างด้าวที่ผิดกฎหมาย    การลักลอบหลบหนีเข้าเมือง   โดยให้ปฏิบัติงานบูรณาการร่วมกับหน่วยงานภาคราชการในพื้นที่อย่างเข้มงวด จริงจัง และ   ต่อเนื่อง   ตลอดจนขยายผลไปยังเครือข่ายผู้ร่วมกระทำความผิดทุกราย พร้อมกำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกนายปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวังตามหลักยุทธวิธีตำรวจและถือปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคตามที่ทางหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ได้กำหนด  พ.ต.อ.นนทวร กล่าว.





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น