วันศุกร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

คุณพระช่วยของจริง!คณะสงฆ์พิจิตรมอบสิ่งของและรถเข็นวีลแชร์ให้ผู้สูงอายุผู้พิการที่ลำบากยากไร้น่ายกย่องกราบไหว้

คุณพระช่วยของจริง!คณะสงฆ์พิจิตรมอบสิ่งของและรถเข็นวีลแชร์ให้ผู้สูงอายุผู้พิการที่ลำบากยากไร้น่ายกย่องกราบไหว้ คณะสงฆ์พิจิตรลงพื้นที่เยี่ยมเยียนผู้สูงอายุที่เป็นผู้ป่วย ผู้พิการติดบ้านติดเตียง ที่กำลังวิกฤตเหตุสังคมผู้สูงอายุและผู้ถูกทอดทิ้งมีมากขึ้น โดยนำสิ่งของและเงินบริจาคพร้อมรถเข็นวีลแชร์ของญาติโยมที่บริจาคไปมอบให้ ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวถือเป็นภารกิจงานสงเคราะห์ของพระสงฆ์ที่พึงปฏิบัติ ซึ่งคณะสงฆ์พิจิตรปฏิบัติเช่นนี้เป็นประจำ  เดือนละครั้ง ตระเวนไปทุกหนแห่งวันที่ 7 ก.พ. 2563 พระเมธีธรรมประนาท “ท่านเจ้าคุณปรีชา”  ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง พระอารามหลวง เจ้าคณะอำเภอเมืองพิจิตร พร้อมด้วย  พระมหาเมธี จันทวังโส    เจ้าอาวาสวัดหาดมูลกระบือ  รองเจ้าคณะอำเภอเมืองพิจิตร  , พระครูวิวิธบุญกิจ  เจ้าอาวาสวัดหงษ์ , พระอธิการนนทวัชร โชติทินฺโน   เจ้าอาวาสวัดวังมะเดื่อ ได้ร่วมกันปฏิบัติกิจของสงฆ์ในงานสงเคราะห์ช่วยเหลือคนแก่ คนพิการ ผู้ยากไร้  ซึ่งปฏิบัติเช่นนี้เป็นประจำทุกเดือน โดยลงพื้นที่วนไปตามตำบลต่างๆในเขตอำเภอเมืองพิจิตรที่มีข้อมูลจาก อสม.และผู้นำชุมชน ที่แจ้งเหตุผ่านพระสงฆ์ที่วัดในหมู่บ้าน ว่ามีผู้ต้องการขอรับความช่วยเหลือ ซึ่งล้วนเป็นผู้พิการเป็นผู้ยากไร้ โดยในครั้งนี้ได้นำข้าวสารอาหารแห้งพร้อมรถเข็นวีลแชร์ที่ได้รับบริจาคมาจาก นางพรฤดี มีชัย สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดบุรีรัมย์   ในนาม บริษัท มีชัย โปรดักส์  ที่บริจาคผ่าน นายร่มฉัตร  มัจฉากล่ำ  ซึ่งเป็นญาติธรรมของคณะสงฆ์พิจิตร เพื่อนำไปมอบให้ คนแก่ คนพิการที่ยากไร้ในครั้งนี้ สร้างความปลาบปลื้มใจให้กับผู้รับ นอกจากนี้คณะสงฆ์ยังได้มอบเงินที่ได้รับมาจากญาติโยมที่บริจาคมา นำไปมอบให้กับ คนแก่ คนพิการที่ยากไร้ในครั้งนี้ด้วย
 พระเมธีธรรมประนาท “ท่านเจ้าคุณปรีชา”  ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง พระอารามหลวง เจ้าคณะอำเภอเมืองพิจิตร กล่าวว่า...สำหรับภารกิจ และหน้าที่ของพระสงฆ์นั้นมีหลายอย่างทั้งกิจวัตรและวัตรปฏิบัติ ต่างๆ   แต่หนึ่งในนั้น  คือกิจสงเคราะห์ ที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสกับเหล่าภิกษุว่า ภิกษุทั้งหลายจงเที่ยวไปสู่หมู่บ้านต่างๆ เพื่ออนุเคราะห์สงเคราะห์ให้ความเมตตากับชาวประชา  ฉะนั้นการสงเคราะห์ประชาชนนั้นเป็นหน้าที่หลัก ของพระภิกษุสามเณร โดยถือหลักแห่งความเมตตาเป็นที่ตั้ง เมื่อสงเคราะห์แล้วญาติโยมเกิดความสุข  นั่นแหละคือหน้าที่ของพระ ไม่ว่าจะเป็นสุขทางกายหรือสุขทางใจก็ตาม การสงเคราะห์ด้วยสิ่งของเครื่องใช้ ถือเป็นการสงเคราะห์ทางกาย การสงเคราะห์ให้ฟังเทศน์ให้ฟังธรรมะก็ถือเป็นการสงเคราะห์ทางใจ  ฉะนั้นหน้าที่ของพระก็คือทำให้โยมนั้นมีความสุขทั้งกายและใจ การจะมีความสุขเกิดขึ้นก็ต้องอาศัยการสงเคราะห์  ดังนั้นคณะสงฆ์จังหวัดพิจิตร จึงได้พร้อมกับผู้นำชุมชนและญาติโยมที่มีจิตศรัทธา จึงบริจาคสิ่งของและทุนทรัพย์ให้กับพระสงฆ์เป็นสะพานบุญนำสิ่งของเหล่านั้นมามอบให้ชาวบ้านที่ประสบปัญหาในการดำรงชีวิตดังกล่าว




สิทธิพจน์  พิจิตร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น