วันอังคารที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

ปราจีนบุรี หนุ่ม51เดินเท้าออกจากบ้านหางานทำเลี้ยงชีพหลังแยกทางกับแฟนสาว!!

ปราจีนบุรี  หนุ่ม51เดินเท้าออกจากบ้านหางานทำเลี้ยงชีพหลังแยกทางกับแฟนสาว!!

ผู้สาวข่าวได้พบกับชายหนุ่มวัยกลางคนกำลังเดินอยู่บนถนนสาย304กบินทร์บุรี-นครราชสีมามุ่งหน้าสู่อ.กบินทร์บุรี บริเวณหน้าปั๊มบางจากบ้านทุ่งโพธิ์ ต.ทุ่งโพธิ์ อนาดี จ.ปราจีนบุรี สะพายกระเป๋าสีดำกำลังก้มเก็บอะไรบางอย่างจากพื้นถนนข้างทาง
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ผ่านมาเจอและจอดรถพูดคุยกับชายหนุ่มนิรนาม ชายหนุ่มนิรนามคนดังกล่าวบอกว่าก้มเก็บเงินเหรียญบาท1เหรียญ จากการสอบถามชายหนุ่มนิรนามคนดังกล่าวบอกว่าหลังจากแยกทางกับแฟนสาวก็ตัดสินใจมาทำงานที่ชัยภูมิโดยทิ้งลูกๆ2คนอยู่กับญาติๆทางบ้านให้ดูแลและไม่เคยกลับบ้านอีกเลยเป็นเวลาหลายปีกระทั่งงานที่ทำอยู่แล้วเสร็จและไม่มีงานต่อจึงตัดสินใจเดินทางรอนแรมมาจาก จ.ชัยภูมิกระทั่งได้มาพบผู้สื่อข่าววันนี้ ด้วยความสงสารผู้สื่อข่าวจึงได้พาไปทานข้าวที่ร้านข้าวแกงยูเทิร์น ริมถนนสาย304 ในขณะที่ชายหนุ่มนิรนามเข้ามาในข้าวแกงก็ได้สั่งบะหมี่2ก้อนแต่ทางร้านบอกว่าหมี่เหลืองหมด แม่ค้าจึงทำก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กให้แทน1ชาม ชายหนุ่มนิรนามได้นั่งทานก๋วยเตี๋ยวจนหมดชามไม่เหลือแม้แต่น้ำด้วยความหิว ผู้สื่อข่าวได้บอกว่าให้สั่งเพิ่มได้นะกินให้อิ่มไม่ต้องเกรงใจแต่ชายหนุ่มนิรนามตอบว่าอิ่มแล้วครับผมกินแค่นี้แหละ ผู้สื่อข่าวจะสั่งเพิ่มให้อีกแต่ชายหนุ่มปฏิเสธและบอกว่าอิ่มแล้วครับ
จากการสอบถามชายหนุ่มนิรนามบอกว่าตนเองชื่อนายรุ่งโรจน์ กิจคุณี อายุ51 ปี บ้านเดิมอยู่บ้านเลขที่32 ม10 ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตั้งใจว่าจะไปหางานก่อสร้างกับผู้รับเหมารายย่อยที่ขาดคนงานรายวันแต่ก็ไม่พบเห็นว่าผู้รับเหมาประกาศรับคนงานชั่วคราวรายวัน หรือบางทีเข้าไปสอบถามตามสถานที่ก่อสร้างต่างๆตามเส้นทางแต่ก็ไม่มีใครรับเพราะคนงานเต็มแล้วจึงเดินทางมาเรื่อยๆเพื่อหางานทำต่อไปค่ำใหนนอนนั่นส่วนมากอาศัยนอนตามวัดและขอข้าวที่วัดกินบางคนพบเห็นก็ได้หยิบยื่นเงินให้เพื่อซื้อข้าวกินบางคนก็เอาขนมของกินมาให้
แต่จุดมุ่งหมายของชายนิรนามก็ยังคงเดินทางหางานทำต่อไปและตั้งใจจะไปที่จ.ปราจีนบุรี
หลังจากทานก๋วยเตี๋ยวอิ่มแล้วทางผู้สื่อข่าวได้เรียกเจ้าของร้านชื่อนางอภิญญา อินทรวัฒนา มาเก็บเงินค่าก๋วยเตี๋ยวของชายหนุ่มนิรนามแต่นางอภิญญาได้บอกว่าไม่ขอคิดเงินเพราะรู้สึกสงสารและอยากทำบุญกับคนที่ตกอยู่ในสภาพนี้
ทางด้านนางอภิญญา อินทรวัฒนา กล่าวว่าตนเองขายข้าวแกงอยู่ริมถนนสาย304 กบินทร์บุรีมานานแล้วถ้าเจอคนเดินทางมาแบบนี้จะเรียกให้มมากินข้าวที่ร้านโดยไม่คิดเงินเป็นประจำ จากนั้นผู้สื่อข่าวจึงได้มอบเงินจำนวน500บาทให้กับนายรุ่งโรจน์ใว้ติดตัวในการเดินทางต่อไป

ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้ติดต่อหาพี่สาวตามเบอร์โทรศัพท์ที่จดใว้ด้านหลังสำเนาทะเบียนบ้านและได้สอบถามนางรุ่งนภา ภูจอมจิตร พี่สาวของนายรุ่งโรจน์
บอกว่าตามที่ได้รับการบอกกล่าวจากผู้สื่อข่าวที่พบเห็นและได้ดูภาพถ่ายที่ผู้สื่อข่าวส่งให้นางรุ่งนภา บอกว่าชายคนดังกล่าวเป็นน้องชายของตนเองจริงก่อนหน้านี้น้องชายมีครอบครัวแล้วและแยกทางกัน
ต่อมาน้องชายไปเที่ยวและถูกทำร้ายสมองได้รับการกระทบกระเทือนปัจจุบันจึงมอาการคล้ายคนความจำเสื่อมในบางครั้ง เป็นคนพูดจาดีและบางครั้งมักจะพูดจาเพ้อเจ้อคนเดียวและได้ออกจากบ้านโดยไม่บอกกล่าวทางบ้านได้ติดตามหาตัวอยู่แต่ยังไม่ทราบข่าวในวันนี้หลังจากที่ทราบข่าวจากผู้สื่อข่าวว่าพบเห็นน้องชายรู้สึกดีใจอยากจะมารับตัวกลับแต่ยังไม่สดวกที่จะเดินทางมารับตัวน้องชาย ไม่รู้ว่าน้องจะเดินไปที่ใหนต่อจะมีใครพบเห็นอีกหรือไม่หรือว่าทางหน่วยงานใดที่จะนำตัวไปส่งรักษายังสถานที่ใดตนก็พร้อมที่จะให้ความร่วมมือทุกอย่างหากใครพบเห็นนายรุ่งโรจน์เดินอยู่ตามถนนในพื้นที่ จ.ปราจีนบุรีหรือจะมุ่งหน้าไป จ.นครนายกหรือมุ่งหน้าเข้า กทม.โปรดแจ้งมายังที่หมายเลขเบอร์โทรศัพท์ 096-3599487
จะเป็นพระคุณอย่างยิ่ง...







ลักขณา สีนายกอง/ รายงาน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น