วันเสาร์ที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2561

แม่ทัพภาคที่ ๓ ตรวจเยี่ยมจุดบริการประชาชนห้วงเทศกาลสงกรานต์ ปี ๒๕๖๑

แม่ทัพภาคที่ ๓ ตรวจเยี่ยมจุดบริการประชาชนห้วงเทศกาลสงกรานต์ ปี ๒๕๖๑

พลโท วิจักขฐ์ สิริบรรสพ แม่ทัพภาคที่ ๓/ผู้บัญชาการศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองทัพภาคที่ ๓/ผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย กองทัพภาคที่ ๓ พร้อมคณะ เดินทางตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่จุดบริการประชาชน ในห้วงเทศกาลสงกรานต์ ๒๕๖๑ พร้อมให้แนวทางในการปฏิบัติงาน และมอบสิ่งของให้กับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ ณ จุดบริการประชาชน ด่านตรวจกาญจนาภิเษก ตำบลสบบง อำเภอภูซาง จังหวัดพะเยา ในวันพฤหัสบดีที่ ๑๒ เมษายน ๒๕๖๑ เวลา ๐๙.๐๐ น.

ตามที่รัฐบาล ได้มีนโยบายแผนบูรณาการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์  ปี ๒๕๖๑ เพื่อให้การดำเนินงานในช่วงเทศกาลสงกรานต์เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ภายใต้แนวคิด "ขับรถมีน้ำใจ รักษาวินัยจราจร" โดยแบ่งการดำเนินการเป็น ๒ ช่วงดังนี้ ช่วงเตรียมความพร้อม การรณรงค์ และเสริมสร้างวินัย เริ่มตั้งแต่วันที่ ๑ มีนาคมถึง ๑๐ เมษายน ๒๕๖๑ และจะดำเนินการอย่างต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปี ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๑ และช่วงควบคุมเข้มข้น ระหว่างวันที่ ๑๑ – ๑๗ เมษายน ๒๕๖๑ เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้เดินทางอย่างปลอดภัย และลดสถิติการเกิดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ให้เหลือน้อยที่สุด รวมทั้งมุ่งเน้นการเฝ้าระวัง ๑๐๙ อำเภอใน ๕๒ จังหวัด ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุสูง โดยจะดำเนินการภายใต้ ๖ มาตรการสำคัญ ได้แก่ มาตรการลดปัจจัยเสี่ยงด้านคน มาตรการลดปัจจัยเสี่ยงด้านถนนและสิ่งแวดล้อม มาตรการลดปัจจัยเสี่ยงด้านยานพาหนะ มาตรการดูแลความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยว มาตรการความปลอดภัยทางน้ำ และมาตรการด้านการช่วยเหลือหลังเกิดอุบัติเหตุ เพื่อให้การดำเนินการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนมีประสิทธิภาพสูงสุด

ในส่วนของกองทัพบก ผู้บัญชาการทหารบก ได้มอบหมายให้หน่วยทหารของกองทัพบก ร่วมกับภาคส่วนต่างๆ จัดตั้งจุดบริการประชาชน ๕๕๓ จุด ในพื้นที่สำคัญของแต่ละจังหวัด ได้แก่ บริเวณเส้นทางคมนาคมสายหลัก พื้นที่หน้าค่ายทหาร พื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ สถานที่ท่องเที่ยว เส้นทางก่อนถึงด่านชายแดน เป็นต้น และให้มีการประชาสัมพันธ์ข้อมูลเส้นทาง ให้กับประชาชน ได้รับทราบถึง จุดเสี่ยง และจุดวิกฤต ในการเดินทางทั้งขาไปและกลับ รวมถึงจัดกำลังพลช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจ กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงคมนาคม เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนาในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ตลอด ๒๔ ชั่วโมง นอกจากนี้ให้กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย(กกล.รส.) ตั้งจุดตรวจ จุดสกัด และการสกัดกั้นการทำผิดกฎหมาย โดยเฉพาะยาเสพติด อีกทั้งให้ผู้บังคับบัญชาลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมจุดบริการในพื้นที่ที่รับผิดชอบ และเน้นย้ำให้เตรียมพร้อมกำลังพล เพื่อรองรับสถานการณ์ต่างๆที่อาจเกิดขึ้น

กองทัพภาคที่ ๓ จึงร่วมกับส่วนราชการและหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ดำเนินการจัดตั้งจุดบริการประชาชน และอำนวยความสะดวก ในห้วงเทศกาลสงกรานต์ ๒๕๖๑ ตั้งแต่วันที่ ๑๑ เมษายน ๒๕๖๑ ถึง ๑๗ เมษายน ๒๕๖๑ ในพื้นที่ ๑๗ จังหวัดภาคเหนือ โดยได้กำหนดจุดบริการไว้ที่ถนนสายหลัก, ถนนสายรอง และในบริเวณถนนชุมชน จำนวนทั้งสิ้น ๑๔๔ จุด เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางให้กับประชาชนได้มีความปลอดภัย และช่วยลดจำนวนการเกิดอุบัติเหตุทางถนน ลดจำนวนผู้เสียชีวิต และจำนวนผู้บาดเจ็บให้เหลือน้อยที่สุด อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มมาตรการในการป้องกันและปราบปรามการลักลอบกระทำความผิดกฎหมายอีกด้วย
แม่ทัพภาคที่ ๓ มีความห่วงใยในเรื่องของการขับขี่ยานพาหนะ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เนื่องจาก จะมีประชาชนและนักท่องเที่ยวสัญจรในปริมาณมาก ประกอบกับเส้นทางในบางพื้นที่ของภาคเหนือมีความสูงชัน เพราะฉะนั้นผู้ขับขี่จึงต้องมีความระมัดระวัง ควรศึกษาเส้นทาง และตรวจสภาพความพร้อมของยานพาหนะ ก่อนการเดินทางไปตามสถานที่และแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ อีกทั้ง ให้หน่วยขึ้นตรงของกองทัพภาคที่ ๓ ได้ร่วมบูรณาการกับหน่วยงานทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ในพื้นที่ ๑๗ จังหวัดภาคเหนือ อาทิ การร่วมบูรณาการกับกรมการขนส่งทางบก ที่ได้จัดเจ้าหน้าที่ตรวจความพร้อมของรถโดยสารสาธารณะ รถยนต์ส่วนบุคคล รถจักรยานยนต์ และจัดหน่วยเคลื่อนที่ออกตรวจจับความเร็วรถด้วยกล้องเลเซอร์ เป็นต้น
   นอกจากนี้ แม่ทัพภาคที่ ๓ ยังเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงาน ดูแลอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ในหลายด้านอาทิ เป็นพื้นที่พักรถ-พักคน สอบถามเส้นทาง การปฐมพยาบาลเบื้องต้น ตรวจเช็คสภาพรถ บริการน้ำดื่ม-กาแฟ รวมถึงเป็นจุดรับแจ้งเหตุด่วน และที่สำคัญอยากให้ประชาชนร่วมกันตระหนัก และให้ความสำคัญในการรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุบนท้องถนน ตลอดจนให้ปฏิบัติตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด เพื่อลดปัญหาการสูญเสีย ทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน และเพื่อสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนนในสังคมไทยให้เกิดขึ้นอย่างยั่งยืน




ข่าวทั่วไทย พิจิตร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น